ในโพสนี้เราจะพาไปชมสถานที่ๆนึงในประเทศญี่ปุ่น ที่หลังจากที่เราไปมาแล้วเราคิดว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ควรค่าแก่การมาในหน้าหนาวมากๆ นั่นก็คือ หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido)
เกร็ดความรู้เล็กๆ
- ฮอกไกโดนั้นมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและค่อนข้างแตกต่างจากจังหวัดในภูมิภาคอื่นๆของญี่ปุ่น เริ่มจากในอดีตตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ฮอกไกโดนั้นได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมโจมง (Jomon) ที่มีความโดดเด่นในด้านการล่าสัตว์ และหาของป่า ตามมาด้วยวัฒนธรรมไอนุ (Ainu) ที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะก่อนที่วาจิน (Wajin) หรือคนญี่ปุ่นจากแผ่นดินใหญ่ฮอนชูบางส่วนจะย้ายรกรากมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่
- ชื่อเก่าแก่ของเกาะฮอกไกโดคือ เอโสะ (Ezo) จนกระทั่งเมื่อปี 1869 รัฐบาลรุ่นแรกๆแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นได้ให้ชื่อใหม่กับรัฐเอโสะว่า ‘ฮอกไกโด’
- และในวันครบรอบ 100 ปีแห่งการก่อตั้งเขตการปกครองฮอกไกโดนี้ จึงได้มีการก่อตั้ง หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโดขึ้น ในบริเวณสวนป่าโนะโปโระ
เราไปที่หมู่บ้านนี้ในช่วงเดือนมกราคมหลังวันปีใหม่ประมาณสองสามวัน เป็นช่วงที่หิมะลงหนักพอดิบพอดี เราเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) มาลงที่สถานีชินรินโคเอ็น (Shinrin Koen Station) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที (260 เยน)
จากชินรินโคเอ็นสามารถนั่งรถเมล์สาย 22 Kaitaku no Maru ไปยังหมู่บ้านที่อยู่สุดสายได้เลย แต่ไม่รู้อะไรดลใจ เราเลือกที่จะเดินค่ะ น่าจะเพราะขี้เกียจรอ (รถเมล์จะมาที่สถานีเพียง 1-2 คันต่อชม) จะบอกว่าคิดผิดชีวิตเปลี่ยนสุดๆ 555
แต่อย่างน้อยเส้นทางที่เราเลือกทำให้เราได้เดินผ่าน หอคอยอนุสรณ์สถานร้อยปีฮอกไกโด (Hokkaido Centennial Memorial Tower) ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสและหิมะเพิ่งตกใหม่ๆ สวยถูกใจไม่เสียแรงที่เดิน
ครึ่งชั่วโมงถัดมา (มันช่างยาวนานและหนาวมากกก) เราก็มายืนอยู่ที่หน้าอาคารสถานีซัปโปโรเก่า ที่เป็นทั้งจุดเริ่มต้นชมหมู่บ้านและที่จำหน่ายตั๋ว
แค่เพียงก้าวขาผ่านประตูหลังของชานชาลาเข้าสู่หมู่บ้านก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุคโบราณ ราวกับเปิดประตูไปสู่ฮอกไกโดเมื่อ 100 ปีที่แล้ว
เมื่อคืนก่อนหน้า หิมะน่าจะตกหนักทำให้ทั้งทางเดินและอาคารต่างๆถูกปกคลุมไปด้วยหิมะชั้นหนาเสมือนว่าหมู่บ้านนี้กำลังหลับไหลอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวสะอาดตา
หมู่บ้านนี้กว้างมากๆ ทั้งยังมีบ้านและอาคารต่างๆกว่า 60 หลังให้ชม การที่จะสำรวจให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ทางหมู่บ้านจึงมีบริการพิเศษคือรถม้าลากให้นักท่องเที่ยวนั่งไปรอบๆหมู่บ้าน เสียดายว่าวันที่เราไปเราไม่มีม้าและรถให้เรานั่ง เลยต้องเดินชมเอาค่ะ
สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ สิ่งปลูกสร้างในหมู่บ้านบางส่วนถูกขนย้ายมาจากที่ต่างๆรอบเกาะฮอกไกโด และนำมาประกอบใหม่ที่นี่ หรือบ้างก็ถูกบริจาคจากเจ้าของที่เคยถือครองสิ่งปลูกสร้างนั้นในอดีต เท่ากับว่าเรากำลังชมอาคารของแท้ที่มีอยู่จริงเมื่อร้อยปีที่แล้วอยู่นั่นเองค่ะ
หมู่บ้านจะถูกแบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่ๆคือ โซนเมือง โซนหมู่บ้านชาวนา โซนหมู่บ้านประมง และโซนหมู่บ้านหุบเขา
โซนเดียวที่เราได้ดูคือโซนเมืองค่ะ เพราะเสียเวลาไปกับการเดินมาจากสถานีรถไฟในตอนแรก (โกรธตัวเองมาก 555) และหมดแรงแล้วเพราะหนาว แต่โดยรวมแล้วบรรยากาศดี คนไม่พลุกพล่านหรือแทบไม่มีเลย คงไปเล่นสกีกันหมดแล้ว ทำให้เราได้รูปถ่ายสวยๆกลับไปเยอะเลยค่ะ
ข้อแนะนำ ถ้าใครจะมาช่วงฤดูหนาวแบบเราขอแนะนำอย่างหนักแน่นตรงนี้ว่า ให้ขึ้นรถเมล์มาจากสถานีนะคะ ขึ้นรถเมล์ค่ะ ถึงมันจะมาช้าแต่รอดีกว่าค่ะ แต่ถ้ามาในช่วงฤดูอื่นแนะนำว่าเดินได้เลยค่ะ ชิวๆ 15-20 นาทีก็ถึง เส้นทางเดินจะทำให้ได้เห็นวิวธรรมชาติของสวนป่าโนะโปโระอีกด้วย
ข้อมูล Historical Village of Hokkaido
การเดินทางจาก Sapporo Station
- Route 1: Sapporo Station – Shinrin-Koen Station – No.22 Kaitaku no Mura bus (210 yen)
- Route 2: Sapporo Station – Shin-Sapporo Station – No.22 Kaitaku no Mura bus (210 yen)
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ 800 เยน | นักเรียนนักศึกษา 600 เยน
- เวลาที่(ควร)ใช้ในการชม 3~4 ชั่วโมง
เวลาทำการ
- พฤษภาคม~กันยายน: เปิด 9:00 ถึง 16:30 (last entry) ปิด 17:00
- ตุลาคม~เมษายน: เปิด 9:00 ถึง 16:00 (last entry) ปิด 16:30
- ถ้าขับรถมา ที่จอดฟรี
- โทรศัพท์: +81 11 898 2692
Historic references [1], [2], [3]
Access
p.s. โพสนี้เราเขียนด้วยใจไร้สปอนเซอร์สนับสนุน แต่อย่างไรก็ตามถ้าทุกคนซื้อสินค้าหรือจองบริการผ่านลิงค์โฆษณาที่โผล่ขึ้นมา เราจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆเพื่อนำมาใช้พัฒนา Ploy’s Little Atlas บล็อกท่องเที่ยวเล็กๆของเรานี้ต่อไปค่ะ ขอบพระคุณผู้เข้าชมทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ //ไหว้ย่อ//
p.p.s รูปภาพทั้งหมดในโพสนี้เป็นของผู้เขียน (เว้นแต่จะระบุแหล่งที่มา) ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในทุกกรณี หากต้องการรีโพส กรุณาติดต่อผ่านโซเชี่ยลมีเดียได้ทุกช่องทาง
ภาพสวย นางแบบงาม อิอิ…ติดตามนะคะ ^^