เห็นได้ชัดว่าวัฒนธรรมเกาหลีนั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย หลายคนก็ติดตามนักร้องบอยแบนด์เกิร์ลกรุ้ปคนโปรดกันมา รวมไปถึงซีรีย์ยอดฮิตต่างๆ ร้านอาหารคาเฟ่สไตล์เกาหลีเปิดใหม่ให้คนลิ้มลองกันก็เริ่มเยอะกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าตัว และแน่นอนว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวเกาหลีแล้วประทับใจจนต้องกลับมาซ้ำอีกหลายๆรอบ หรือแม้กระทั่งสนใจอยากจะมาใช้ชีวิตอยู่กันเลยก็มีใช่มั้ยคะ ในโพสนี้เรามีคำแนะนำหรือข้อควรรู้เล็กๆสำหรับคนที่สนใจจะมาใช้ชีวิตในเกาหลีกันค่ะ เราคิดว่าทิปเหล่านี้จะช่วยให้การเริ่มต้นใช้ชีวิตในเกาหลีของคุณสะดวกและง่ายขึ้นไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

1. ทำความคุ้นเคยกับภาษาเกาหลีซักเล็กน้อยก่อนมาถึง

ในที่นี้เราแนะนำว่าให้รู้ในระดับที่อ่านออก ไม่ต้องถึงกับให้พูดได้ แต่ถ้าอ่านได้จะช่วยให้การใช้ชีวิตในเกาหลีของคุณง่ายขึ้นมากกกกกกกค่ะ โดยเฉพาะในเรื่องของการเดินทาง ถ้าเราอ่านออกจะทำให้เราเข้าถึงสถานที่ต่างๆได้ง่าย ไว และลึกขึ้นด้วยค่ะ และในบรรดาทักษะฟังพูดอ่านเขียนเนี่ยนะคะส่วนตัวเราคิดว่าการอ่านภาษาเกาหลีง่าย และเป็นเร็วที่สุดค่ะ เพราะเค้ามีพยัญชนะและสระไม่มาก การผสมคำก็ไม่ซับซ้อนค่ะ เพราะฉะนั้นลองฝึกอ่านให้ออกก่อนมาเกาหลีดูนะคะ จะช่วยได้เยอะเลยค่า

2. การเดินทางในเกาหลีกับแอพที่ควรมีติดโทรศัพท์

ประเทศเกาหลีนั้นมีระบบการขนส่งสาธารณะที่ทันสมัยและรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะในโซลนั้นมีซับเวย์สายหลักให้บริการตั้งแต่สาย 1 ถึงสาย 9 ครอบคลุมทั่วโซลและเขตปริมณฑล (บางพื้นที่ของจังหวัดกยองกี) และยังมีเส้นทางรถบัสอีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่จะพาคุณไปยังจุดหมายที่รถไฟเข้าไม่ถึง มากไปกว่านั้นนะคะถ้าคุณเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเหล่านี้ เช่นขึ้นรถไฟสายนี้แล้วเปลี่ยนสาย (transfer)ไปสายอื่น หรือขึ้นรถเมล์สายหนึ่งแล้วลงไปขึ้นอีกสายหนึ่งภายในเวลา 30นาที คุณก็จะได้ส่วนลดจากการเปลี่ยนสายขึ้นอยู่กับระยะทางที่เราเดินทางด้วยค่ะ แต่จะต้องจ่ายค่าโดยสารด้วยบัตร T-money เท่านั้นนะคะถึงจะได้ส่วนลดพวกนี้ เพราะฉะนั้นมาถึงเกาหลีแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือซื้อบัตร T-money นี้ติดตัวไว้ก่อนเลยค่ะ

3. Never Account นั้นสำคัญไฉน

Naver เป็น search engine หลักของคนเกาหลีค่ะ เราใช้เนเวอร์นี่เป็นหลักในการหาร้านอาหารอร่อยๆ(맛집)ในย่านต่างๆค่ะ และการมี Naver account ที่เหมือนกับการที่เรามี Gmail account จะช่วยเพิ่มความสะดวกเล็กๆให้เราในเรื่องการจองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วคอนเสิร์ต นิทรรศการ อีเว้นท์ต่าง จองร้านอาหาร จองที่พัก จองบริการปิคนิคริมแม่น้ำฮัน โดยเฉพาะถ้าเราจองผ่านเนเวอร์ในหลายๆครั้งเราจะได้ส่วนลดด้วยค่ะ 

4. Daiso นั้นดี มีทุกอย่างให้เลือกสรรค์

ใครที่เคยเข้าไดโสะที่ไทยแล้วให้ลองจินตนาการว่าไดโสะของเกาหลีคือไดโสะไทยชุปแป้งทอดค่ะ ไดโสะที่เกาหลีนั้นมีของให้เลือกเยอะมากกกกก มีครบทุกโซนตั้งแต่โซนสำหรับห้องน้ำ ของทำครัว มุมตกแต่งสวน อุปกรณ์ออฟฟิศ เครื่องมือช่าง โซนสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์กีฬา ของจุกจิกน่ารักๆก็เยอะแยะเต็มไปหมดค่ะ ที่สำคัญราคาสินค้าถูกมากอยู่ สนนราคาแพงสุดอยู่ที่ 5000วอนหรือเกือบๆ 150บาทไทย ใครที่ลืมเอาหัวแปลงปลั๊กไฟ(adapter)มาจากไทยก็หาได้ที่ไดโสะสาขาใกล้ที่พักได้เลยค่ะ

5. ช่องทางการหาห้องพักในเกาหลี

ห้องพักในเกาหลีราคาค่าเช่ารายเดือน(월세)และค่ามัดจำ(보증금)ก็จะแตกต่างไปตามโลเคชั่นและประเภทของห้องค่ะ เช่นโกชีวอน()เป็นห้องพักขนาดเล็กมากราคาถูกสำหรับอยู่คนเดียว ส่วนใหญ่ไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องแชร์กับห้องอื่นๆในชั้นเดียวกัน วอนรูม/วันรูม(원룸)คือห้องเดี่ยวมีห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่กว่าโกชีวอน ราคาก็จะแพงขึ้นมาหน่อยค่ะ ใหญ่ถัดมาก็จะเป็นออฟิสึเทล(오피스텔) เป็นห้องที่มีการแบ่งสัดส่วนชัดกว่าห้องแบบวันรูม ราคาก็จะแพงตามขึ้นมาเช่นกัน และห้องแบบอาพาถึ(아파트)หรืออพาร์ทเม้นท์แบบที่เราๆรู้จักกันค่ะ วิธีการหาห้องพักเหล่านี้ด้วยตัวเองที่สะดวกที่สุดคือการติดต่อผ่านพูดงซัน (real estate agent) ในย่านที่เราสนใจ แต่แน่นอนว่าพูดงซันเค้าก็จะสะดวกพูดแต่ภาษาเกาหลีอีกนั่นแหละค่ะ หรือมีอีกวิธีหนึ่งคือหาข้อมูลผ่านเวปไซต์

6. เทรนด์คูลๆ เพิ่มพูนใน Instagram

ค่ะในโพสนี้เราก็จะขอแนะนำไว้เท่านี้ก่อน ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมหรือมีการเปลี่ยนแปลงเราจะมาอัพเดทให้อ่านกันนะคะ

โพสนี้เราเขียนด้วยใจไร้สปอนเซอร์สนับสนุน แต่อย่างไรก็ตามถ้าทุกคนซื้อสินค้าหรือจองบริการผ่านลิงค์โฆษณาที่โผล่ขึ้นมา เราจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆเพื่อนำมาใช้พัฒนา Ploy’s Little Atlas บล็อกท่องเที่ยวเล็กๆของเรานี้ต่อไปค่ะ ขอบพระคุณผู้เข้าชมทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ //ไหว้ย่อ//