ในช่วงวิกฤติโควิด19 ในเกาหลีจู่ๆก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ป๊อปปูล่าขึ้นมานั่นคือ ‘สตูดิโอนิจิโมริ’ หรือที่คนเกาหลีหลายคนเรียกว่าหมู่บ้านญี่ปุ่นนิจิโมนิ ในเมืองดงดูช่อนค่ะ นั่นก็คงเป็นผลพวงมาจากความยุ่งยากในการเดินทางระหว่างประเทศ ที่ทำให้คนโหยหาบรรยากาศใหม่ๆที่แปลกไปจากบ้านตัวเองกัน 

และส่วนตัวแล้วเราที่พักอาศัยอยู่ในเกาหลีเราจะต้องได้จัดทริปไปเที่ยวญี่ปุ่นทุกปีจนมาชะงักช่วงโควิดนี่แหละค่ะ พอเราเห็นความฮิตติดชาร์ทของหมู่บ้านนิจิโมรินี่เราก็ไม่พลาดที่จะต้องไปเช็คอินให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกันซักหน่อย 

สตูดิโอนิจิโมริเปิดให้เข้าชมเมื่อเดือนกันยายนปี 2021 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ ที่นี่แต่เดิมถูกสร้างขึ้นโดยผู้กำกับคิมแจฮยองเพื่อเอาไว้ใช้ถ่ายหนังหรือละครเกาหลีที่มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับญี่ปุ่นในสมัยโบราณ จนกระทั่งถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธีมญี่ปุ่น

คำเตือน! ที่นี่ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า19ปีเข้าชมนะคะ เพราะภายในหมู่บ้านนี้มีมุมสิ่งโชว์สำหรับผู้ใหญ่ซ่อนอยู่ (เราบอกใบ้ให้ค่ะ ว่าอยู่ในร้านหนังสือร้านนึง) 

ตัวหมู่บ้านจำลองนี้ตั้งอยู่ที่ชายเขาชิลบงในจังหวัดกย็องกี ถ้าขับรถไปจากโซลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ แต่ถ้านั่งขนส่งสาธารณะมาจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไปค่ะ เราเขียนสรุปวิธีการเดินทางไว้ให้ตอนท้ายในช่องข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ

ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีพื้นที่แค่ 7.5 เอเคอร์หรือประมาณ 4 สนามฟุตบอล แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น โครงสร้างของบ้านและอาคารแต่ละหลังถูกถอดแบบมาจากสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) ของญี่ปุ่นค่ะ นอกจากจะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้วที่นี่ก็มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวทำเหมือนไปเที่ยวหมู่บ้านญี่ปุ่นในญี่ปุ่นจริงๆเลยค่ะ เช่น มีร้านให้เช่าชุดกิโมโนเดินเที่ยวในหมู่บ้าน มีเรียวกังให้พักค้างคืน มีร้านน้ำชา อิซากายะ ร้านซูชิ ราเมน ร้านขายของฝากนำเข้าจากญี่ปุ่น ร้านขายวัตถุโบราณ และจุดถ่ายรูปสวยๆสไตล์นิปปอนๆทั่วหมู่บ้าน

เรามาเที่ยวที่นี่ในช่วงปลายเดือนมกราคมและเป็นจุดพีคของหน้าหนาวของเกาหลี บรรยากาศในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ก็จะคูลๆหน่อย มีควันและกลิ่นถ่านตลบอบอวลทั่วหมู่บ้าน เพราะเค้ามีจุดนั่งพักผิงไฟที่ใช้เตาถ่านไว้บริการ ระหว่างนั่งผิงไฟเค้าก็มีบอร์ดเกมให้เล่นแก้เบื่อด้วยนะคะ ช่างใส่ใจในรายละเอียดเสียจริงๆ

ที่ใจกลางของหมู่บ้านมีสระน้ำโฮชิโนะฮิคาริที่รองรับน้ำที่ไหลลงมาจากหุบเขาชิลบง และศาลาสีแดงสดที่ยื่นเข้าไปในสระก็คือ ศาลเจ้า ‘คานาอูกัก’ ที่ถูกสร้างไว้อย่างโดดเด่นสะดุดตา และพอน้ำในสระกลายเป็นน้ำแข็งเพราะความเย็นของฤดูหนาวแบบนี้ ยิ่งเพิ่มความสวยงามให้กับวิวของหมู่บ้านเข้าไปอีกค่ะ   

นอกจากนี้นะคะ บริเวณรอบๆสระยังเต็มไปด้วยศาลเจ้าขนาดเล็กที่มีรูปปั้นสัตว์ต่างๆถูกวางบูชาไว้ เช่น รูปปั้นกระต่าย สุนัขจิ้งจอก หมาป่า และแมว ที่ตามความเชื่อของศาสนาพุทธนิกายชินโตของญี่ปุ่นเชื่อว่าสัตว์เหล่านี้คือผู้รับส่งสาส์นจากเทพเจ้าค่ะ   

และถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ตอนบ่าย 2 จะได้เห็นการแสดงพิเศษจากหมู่บ้านด้วยนะคะ โชว์นี้มีชื่อว่า ‘เกมการประลองซามูไร’ ที่มีไว้ให้ผู้ชมเข้าร่วมได้เพื่อเพิ่มสีสันและความสนุกสนานให้กับคนที่มาเที่ยว โดยผู้เข้าร่วมจะถูกแบ่งออกเป็นสองทีม ทีมครอบครัวโซราโนะ กับทีมครอบครัวไอโนะ และมาแข่งเล่นเกมง่ายๆกันตั้งแต่เป่ายิงฉุบถึง ตักจี (딱지) ที่เป็นการละเล่นสำหรับเด็กของคนเกาหลีค่ะ ทีมไหนชนะ สมาชิกในทีมนั้นจะได้รางวัลเป็นเหรียญที่สามารถเอาไปใช้ซื้อสินค้าหรือบริการภายในหมู่บ้านได้ (เสียดายว่าเราจำไม่ได้ว่ารางวัลนี้มีมูลค่ากี่วอน)

โดยรวมแล้วสตูดิโอนิจิโมรินี่ก็มีบรรยากาศที่ดีแต่น่าจะไม่เป็นที่สนใจของคนที่ตั้งใจจะมาเที่ยวเกาหลี แน่หล่ะใครจะบินมาเพื่อเที่ยวหมู่บ้านญี่ปุ่นในเกาหลีใช่มั้ยคะ 555 แต่สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเกาหลีแล้ว การมีจุดท่องเที่ยวในประเทศที่ใกล้เคียงกับสถานที่ที่เราคิดถึง และยิ่งในเวลาที่การเดินทางข้ามประเทศเป็นเรื่องยาก มันก็เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆเลยค่ะ

ภาพบรรยากาศเพิ่มเติมจากหมู่บ้านญี่ปุ่นนิจิโมริหน้าหนาว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nijimori Studio

เวลาทำการ: 11:00 - 21:30 (เข้าได้ถึง 20:00)

ค่าเข้า: 20,000KW (เด็กอายุต่ำกว่า 19 ปีห้ามเข้า)

ค่าที่จอดรถ: 3,000วอน (5 ชม แรก) หลังจากนั้นคิดชั่วโมงละ 1,000วอน 

การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะจากโซล:
⇒ขึ้นซับเวย์สาย 1 (สายสีน้ำเงิน) มาลงที่สถานีดงดูช่อนจุงอัง (동두천중앙역)
⇒ออกมาทางออก 3 แล้วเดินตรงไปประมาณ 3 นาที
⇒ข้ามทางม้าลาย ไปขึ้นรถเมล์สาย 60 (มาทุกๆ 1-2 ชั่วโมง) ถ้าไม่อยากรอหรือขึ้นไม่ทันให้ต่อแทกซี่ไปเลยค่ะ (ประมาณ 7,000วอน)
⇒ถ้าขึ้นรถเมล์ 60 ทัน ให้นั่งไป 16 ป้าย ลงที่สถานีสตูดิโอนิจิโมริ (니지모리스튜디오)
⇒ข้ามถนนแล้วเดินตรงไปอีกประมาณ 5 นาทีค่ะ

Naver Map: Nijimori Studio
경기 동두천시 천보산로 567-12 니지모리스튜디오
http://naver.me/xWp6GZuw 

โพสนี้เราเขียนด้วยใจไร้สปอนเซอร์สนับสนุน แต่อย่างไรก็ตามถ้าทุกคนซื้อสินค้าหรือจองบริการผ่านลิงค์โฆษณาที่โผล่ขึ้นมา เราจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆเพื่อนำมาใช้พัฒนา Ploy’s Little Atlas บล็อกท่องเที่ยวเล็กๆของเรานี้ต่อไปค่ะ ขอบพระคุณผู้เข้าชมทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ //ไหว้ย่อ//