เกาะฮอกไกโดนั้นมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในจำนวนเกาะต่างๆของญี่ปุ่น แต่การคมนาคมนั้นยังค่อนข้างจำกัด รถไฟและรถบัสก็มีบริการพอทั่วถึงกันแค่ในเมืองใหญ่ๆอย่างซัปโปโรและฮาโกดาเตะ การเดินทางออกนอกตัวเมืองนั้นยังทำได้ไม่สะดวก รถยนต์จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปยังจุดหมายที่ห่างไกลในฮอกไกโด ในทริปนี้เราและเพื่อนๆอีกสิบคนจึงเลือกที่จะเช่ารถขับเที่ยวกันเองแบบไม่เร่งรีบค่ะ

ทริปนี้เราเดินทางจากโซลสู่สนามบิน New Chitose ด้วยสายการบิน JinAir สนนราคาตั๋วไป-กลับรอบนี้อยู่ที่ประมาณ 3,650 บาทค่ะ ใครสนใจดาวน์โหลดกำหนดการการเดินทางตลอดทริปแบบคร่าวๆพร้อมค่าใช้จ่ายได้ ที่นี่ เลยค่ะ ถ้าอยากรู้รายละเอียดของสถานที่ต่างๆ ร้านรวงที่เราไปแวะลองแวะชิม พร้อมชมภาพบรรยากาศจากสถานที่นั้นๆ สามารถติดตามได้จากโพส Part I เป็นต้นไปเลยนะค้าาา

เช่ารถจาก Niconico Rent a Car

เราเช่ารถขนาดหกผู้โดยสารมาสองคันจาก Niconico rent a car หลังจาก landing และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วให้โทรไปที่เบอร์ +81-092-687-4556 เพื่อแจ้งให้ทางร้านรู้ว่าเราถึงแล้ว แล้วเค้าจะส่ง shuttle bus มารับเราค่ะ ให้เราไปรอที่จุดจอดรถ shuttle bus (การเดินไปขึ้นรถ)

สำหรับคนที่จะทำหน้าที่ขับรถจะต้องมี International Driver Lisence ในช่วงที่ไปรับรถควรเช็คให้แน่ใจว่าราคาที่เช่านี้รวมประกันอุบัติเหตุแล้วหรือยังนะคะ และอย่าลืมถามหา Hokkaido Expressway Pass กับ บัตร ETC (Electric Toll Collection) เพื่อความสะดวกเวลาขับขึ้น toll way ค่ะ

หลังจากเซ็นต์สัญญารับรถแล้วพี่พนักงานก็จะพาเราไปดูรถ ตรวจเช็คสภาพความเรียบร้อยต่างๆแล้วเค้าจะเรียกคนขับ(เท่านั้น)ไปรับฟังการสาธิตใช้ GPS หรือใครสะดวกจะเปิด Google Map เลยก็ได้ค่ะ ระบบพิกัดต่างๆค่อนข้างมีความแม่นยำสูง

Day 4 (16 ตค 2562): Otaru – Sapporo

วันนี้ทั้งวันเราจะใช้ไปกับการเดินเที่ยวเล่นในเมืองเล็กๆแต่น่ารักอย่างเมืองโอตารุกัน ขับรถจากซัปโปโรไปเองใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงค่ะ มาถึงในช่วงเวลาสายๆประมาณสิบโมงพวกเราก็ตรงไปเติมพลังกันก่อนเลยที่ตลาดปลาซังคาคุ (Sankanu Market) มาถึงเมืองท่าที่สำคัญอีกเมืองของฮอกไกโดเราก็ไม่พลาดที่จะมองหาอาหารทะเลสดๆอร่อยๆมาลิ้มลอง

Takinami Shokudo

ตลาดซังคาคุตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟโอตารุ ตลอดสองฝั่งของทางเดินเล็กๆในตลาดนั้นถูกเรียงรายไปด้วยร้านอาหาร แผงปลา และอาหารทะเลนานาชนิด ว่ากันว่าเมนูอาหารทะเลที่อร่อยที่สุดนั้นคือไคเซ็นดง(ข้าวหน้าทะเล)แห่งฮอกไกโด และที่สุดของไคเซ็นดงฮอกไกโดนั้นอยู่ที่โอตารุ และร้านไคเซ็นดงที่เราถูกแนะนำว่าต้องมาให้ได้คือ ทาคินามิ โชคุโด (Takinami Shokudo) ที่อยู่ในตลาดสดแห่งนี้นี้แหละค่ะ

ร้านนี้หาเจอได้ไม่ยากเย็น แม้ว่าจะมีร้านที่ขายไคเซ็นดงเหมือนกันหลายร้านในตลาด แต่ร้านทาคินามิโชคุโดกลับเป็นร้านเดียวที่มีลูกค้าต่อคิวรอเป็นแถวยาวเหยียดจนทางร้านต้องจัดโซนให้นั่งรอ ระหว่างรอจะมีพนักงานเดินมารับออเดอร์ พอถึงคิวเราแล้วเลยไม่ต้องรอนานอาหารก็มาวางตามที่สั่ง

ร้านค่อนข้างเล็กแต่ละโต๊ะนั่งได้มากสุดก็แค่ห้าคน โต๊ะเราสั่งไคเซ็นดงไซส์กลาง 2 ถ้วย (ประมาณ 4000เยน) เซ็ทแซลมอนย่าง 1 เซ็ท (800 เยน) กุ้งหวาน 1 จาน(500เยน) กับแซลมอนซาชิมิ และสแกลลอบซาชิมิ (ประมาณ 1000เยน) ทุกอย่างที่สั่งมาคืออร่อยมากกกกกก ก ไก่ล้านตัว กินแล้วตาเป็นประกายยิบๆ ตั้งแต่เที่ยวในญี่ปุ่นมาเราเคยคิดว่าไม่น่าจะมีอาหารทะเลที่ไหนอร่อยและสดสู้ที่ฮาโกดาเตะได้ แต่นี่เราให้ขึ้นหิ้งครองแชมป์อาหารทะเลอร่อยเจ้าใหม่ไปเลย ไคเซ็นดงหน้าอูนิคือสุดยอดของสุดยอดข้าวหน้าทะเล ไข่หอยเม่นมีความสดหวานไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย เอาเป็นว่าสำหรับขาอาหารทะเลถ้าได้มาโอตารุอย่าลืมแวะมาร้านนี้นะคะ รับประกันความประทับใจ

Otaru Canal

หลังท้องอิ่มได้ซักพักเราก็มาเดินย่อยกันที่คลองโอตารุกัน เมืองโอตารุด้วยความที่เป็นเมืองขนาดเล็ก ความน่ารักของเค้าก็คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อต่างๆนั้นสามารถเข้าถึงได้โดยการเดินแบบชิวๆ เดินจากตลาดซังคาคุมาถึงคลองใช้เวลาประมาณสิบนาที

Sakaimachi Street

เดินจากคลองโอตารุไป 8 นาทีทางด้านตะวันออก เราก็มาถึง ‘ถนนซากาอิมาชิ’ ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งสุดฮิตในเมืองท่าเล็กๆอย่างโอตารุ เราจะสามารถหาทุกอย่างที่ขึ้นชื่อของโอตารุได้จากที่นี่แหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ขนมหรือชีสเค้ก LETAO ครีมพัฟ Kitakaro หรือแม้กระทั่งจุดเช็คอินสวยๆอย่างเช่น พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี Marchen Square สนู้ปปี้คาเฟ่ คิตตี้คาเฟ่ และอื่นๆอีกมากมาย แต่ที่ถูกใจเราเป็นพิเศษคือ บูธขาย street food ที่ละลานตาตามสองฝั่งถนนนี่แหละ ทำเอาเราอิ่มเอมไปกับการชิมโน่นลองนี่ที่ถนนซากาอิมาชิแห่งนี้จนต้องอุทิศเวลาทั้งบ่ายของวันนี้ให้ไปเลยค่ะ

ข้อแนะนำ: สำหรับคนที่สนใจซื้อของฝากเป็นขนมของ LeTAO เราขอแนะนำว่าถ้ามาถึงโอตารุซึ่งเป็นสาขาบุกเบิกต้นตำรับของแบรนด์แล้วให้จัดคุ้กกี้สอกไส้สตรอเบอร์รี่เลยค่ะ เพราะเราถูกแนะนำมาอีกทีนึงว่าหาได้ที่นี่เท่านั้น ของอย่างอื่นนั้นสามารถหาได้ตามสาขาต่างๆทั่วประเทศหรือแม้กระทั่งที่สนามบินก็มีค่ะ

Gyu no Ishizaki (Wahyu Shabu Shabu and Sukiyaki)

กินที่โอตารุยังไม่พอเรากลับมากินต่อกันที่ซัปโปโรค่ะ 555 ได้เวลาของม้ือเย็นพอดี แปดคนในกรุ้ปลงความเห็นให้กับสุกี้ยากี้ ส่วนที่เหลือแยกย้ายกันตามอัธยาศัย ร้านสุกี้ยากี้ที่เราเลือกมาในครั้งนี้คือ Gyu no Ishizaki (Wahyu Shabu Shabu and Sukiyaki) ที่ตั้งอยู่ในย่านซูซูกิโนะ

ในร้านบรรยากาศดี โต๊ะทุกโต๊ะถูกจัดไว้เป็นห้องๆอย่างเป็นสัดส่วนแต่ถึงกระนั้นแล้วเสียงจากห้องข้างๆก็ยังดังมากอยู่ดี ร้านกิวโนะอิชิซากินี้เสริ์ฟชาบูชาบูและสุกี้หม้อร้อนสไตล์ญี่ปุ่นที่ใช้เนื้อระดับพรีเมียมมาการันตีความอร่อยเหาะ แต่ด้วยความผิดพลาดทางการสื่อสารทำให้เราได้เซ็ทสุกี้ยากี้เนื้อมาเจ็ดที่ในราคากว่า 44,000เยน ว่าถึงรสชาติและคุณภาพของเนื้อนั้นอร่อยคับเกรดจริงค่ะ แต่ปริมาณต่อเซ็ทนั้นค่อนข้างน้อย ทำให้เราออกจากร้านกันมาแบบยังไม่อิ่ม ต้องมาหาอะไรกินกันต่อที่ถนนช้อปปิ้ง Tanuki Koji ปิดท้ายมื้อเย็นของวันที่ไม่ค่อยอิ่มเอมเท่าไหร่

Day 5 (17 ตค 2562): Sapporo – Seoul

Hokkaido University Gingo Avenue

โชคดีที่ที่พักของเรานั้นตั้งอยู่หลังมหาวิทยาลัยฮอกไกโด เช้าของวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับโซลเราก็ได้แว้บไปถ่ายรูปกับถนนกิงโก้ที่ติดหนึ่งในสถานที่แนะนำของซัปโปโร ขับรถจากที่พักไปไม่เกินห้านาทีค่ะ ใกล้มากๆ แต่มีข้อแนะนำหน่อยนึงว่าถ้าใครจะขับรถเข้าไปจอดในมหาลัยฯ ให้เตรียมค่าที่จอดรถไว้ด้วยนะคะ เราจอดไม่เกิน 30นาทีเสียไป 110เยน

น่าเสียดายที่ตอนเราไปถึงใบของต้นกิงโก้ยังไม่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองดีนัก แต่ด้วยบรรยากาศตอนเช้าตรู่ทำให้เราได้ภาพบรรยากาศอันเงียบสงบไร้ผู้คนกลับไปแบบไม่เสียเที่ยวค่ะ

ได้เวลาบอกลาความสนุกสนานในครั้งนี้ที่ฮอกไกโดแล้วค่ะ ก่อนไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน New Chitose ก็ต้องเอารถไปคืนกันก่อน

คืนรถที่ Niconico Rent a Car

สำหรับคนที่เช่ารถจาก Niconico อย่าลืมเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนขับกลับไปคืนที่ร้านด้วยนะคะ ตรวจเช็คสภาพความเรียบร้อยก็ขึ้นรถ shuttle bus ของร้านไปสนามบินกันค่ะ บ้าย บายแล้วฮอกไกโด เจอกันใหม่คราวหน้าจ้า สวัสดี…

โพสนี้เราเขียนด้วยใจไร้สปอนเซอร์สนับสนุน แต่อย่างไรก็ตามถ้าทุกคนซื้อสินค้าหรือจองบริการผ่านลิงค์โฆษณาที่โผล่ขึ้นมา เราจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆเพื่อนำมาใช้พัฒนา Ploy’s Little Atlas บล็อกท่องเที่ยวเล็กๆของเรานี้ต่อไปค่ะ ขอบพระคุณผู้เข้าชมทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ //ไหว้ย่อ//

โพสที่เกี่ยวข้อง

แผนการเที่ยวพร้อมรีวิว AUTUMN HOKKAIDO 5 วัน 4 คืน – PART I
แผนการเที่ยวพร้อมรีวิว AUTUMN HOKKAIDO 5 วัน 4 คืน – PART II
แผนการเที่ยวพร้อมรีวิว AUTUMN HOKKAIDO 5 วัน 4 คืน – PART III