ถ้าได้ยินชื่อกวังมยองสำหรับเราแล้วสิ่งแรกที่แว๊บขึ้นมาในหัวเลยคือห้าง IKEA เพราะเมืองกวังมยอง (Gwangmyeong) เป็นที่ตั้งของห้างอิเกียสาขาแรกของเกาหลีค่ะ เรามาบ่อยมากเพราะอยู่ไม่ไกลจากโซล (และเราชอบมานั่งกินข้าวในโรงอาหารอิเกียเป็นพิเศษค่ะ ช็อคโกแล็ตเค้กเค้าอร่อยมากกกก) แต่เมื่อเร็วๆนี้ก็มีสิ่งดึงดูดใจสิ่งใหม่ที่ทำให้เราต้องกลับมาที่เมืองกวังมยองอีก นั่นคือคาเฟ่ฮันอกที่เปิดมาได้ไม่นานอย่างคาเฟ่ ‘โซฮาโกแทก’ (Soha Goteak) ค่ะ

คาเฟ่โซฮาโกแทกตั้งอยู่ไม่ไกลจากคลองอันยาง (Anyang Stream) อยู่เยื้องๆกับทางเข้าอพาร์ตเมนต์คอมเพล็กซ์ชินช่นฮิวแมน (Sinchon Humansia Apartment Complex 1) 

ดูจากด้านนอกที่นี่ออกจะเหมือนที่แสดงผลงานศิลปะซะมากกว่าคาเฟ่ เพราะมองเข้าไปเราจะเห็นชิ้นงานเซรามิกชิ้นน้อยชิ้นใหญ่วางประดับไปทั่วพื้นที่ด้านในเลยค่ะ เดินผ่านประตูทางเข้าหลักเข้าไปเราจะเห็นสวนที่ถูกปูด้วยก้อนหินก้อนเล็กๆที่มองแล้วแปลกตาเพราะหาดูไม่ได้ทั่วไปในคาเฟ่เกาหลี

ภายในคาเฟ่มีโซนที่นั่ง indoor อยู่สองจุด และโซนด้านนอกสำหรับคนชอบบรรยากาศสบายๆไร้แอร์คอนดิชันเนอร์ แต่ที่ดึงดูดให้เรามาที่นี่ตั้งแต่แรกคือหนึ่งในโซนที่นั่งในร่มค่ะ

โซนแรกเป็นที่ที่เราต้องเดินเข้าไปสั่งเครื่องดื่มที่อยู่ติดกับลานจอดรถค่ะ จุดนี้มีห้องน้ำในตัวและมีดีไซน์ที่ดูโมเดิร์น ตัวอาคารด้านนอกสร้างจากเหล็ก ดูแล้วเหมือนตู้คอนเทนเนอร์สีดำมีหลังคา ด้านในถูกตกแต่งแบบเรียบๆไม่รกตา และโซนนี้เค้ายังมีผลิตภัณฑ์เซรามิกพวกถ้วยชา แก้วกาแฟ จานรองแก้วและอื่นๆที่(เราคิดว่า)เจ้าของร้านเค้าทำขึ้นมาเองมาวางโชว์และขายด้วยนะคะ

โซนที่สองเป็นโซนที่เราชอบมากและดูจะเป็นพระเอกของคาเฟ่เลยก็ว่าได้ นั่นคือโซนบ้านเกาหลีโบราณหรือฮันอกนั่นเอง บ้านเกาหลีหลังนี้นอกจากจะถูกออกแบบมาให้ดูเป็นบ้านโบราณแบบดั้งเดิมแล้วภายในยังมีการนำของเก่าๆเช่นโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เก็บของ เตารีด และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในสมัยโบราณ ที่ถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดี มาจัดสรรตั้งโชว์ให้ชมด้วยค่ะ

ตรงนี้มีความแปลกอยู่อย่างนึงคือเค้าไม่มีการเปิดเพลงเคล้าคลอให้ลูกค้าฟังค่ะ และเค้าก็ระบุไว้ขัดเจนเลยว่าทำไม ถ้าเลือกนั่งในโซนบ้านเกาหลีโบราณทุกคนจะเห็นว่าบนโต๊ะทุกตัวมีแผ่นกระดาษที่ถูกเขียนด้วยลายมือแปะอยู่ กระดาษแผ่นนี้มีไว้เพื่ออธิบายถึง ‘เหตุผลที่โซฮาโกแทกเลือกที่จะไม่เปิดเพลงให้คุณลูกค้าฟัง’ เค้าชี้แจงเพิ่มเติมว่าบ้านฮันอกหลังนี้เป็นเหมือนกับ gallery แสดงงานศิลป์นี่มีที่นั่งชม การเปิดเพลงจึงถือเป็นการปิดกั้นในการเข้าถึงผลงานของแต่ละบุคคล เลยไม่เปิดดีกว่า และด้วยเหตุนี้ทางร้านจึงขอความร่วมมือจากคุณลูกค้าที่มานั่งทุกท่านไม่ในการงดใช้เสียงดังรบกวนสถานที่ด้วยค่ะ เป็นคาเฟ่แรกเลยนะคะที่เราเห็นว่ามี instruction อะไรแบบนี้ ช่างเป็นคาเฟ่ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของลูกค้าซะจริงๆเลย

พูดถึงเมนูเครื่องดื่มซักหน่อย ที่นี่มีเครื่องดื่มชากาแฟแบบเบสิคๆเหมือนคาเฟ่ทั่วไป โต๊ะเราสั่งไอซ์วนิลาลาเต้ (6,000 วอน) กับไอซ์อเมริกาโน่ (5,000 วอน) ซึ่งรสชาติก็ถือว่าไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ แต่ที่พิเศษว่าร้านกาแฟทั้วไปคือ ที่นี่มีเมนูของหวานโบราณที่จะเห็นได้ตามร้านชาโบราณๆของเกาหลีขายด้วยค่ะ เราสั่งเมนู ‘กาแรต็อกกูอี’ มาลอง ซึ่งมันคือกาแรต็อกที่ถูกตัดเป็นชิ้นพอดีคำแล้วนำไปแล้วย่างเสิร์ฟคู่กับน้ำผึ้ง รสชาติดีใช้ได้ค่ะ ที่สำคัญหาทานไม่ได้ทั่วไปนะคะเมนูนี้ ดีจริงๆค่ะที่ได้มาลองรอบนี้

ขอจบการรีวิวคาเฟ่โซฮาโกแทกไว้เท่านี้นะคะ ถ้าใครสนใจจะมาเที่ยวจิบกาแฟทานต็อกย่างที่นี่แนะนำเลยค่ะ ที่นี่เดินทางมาง่ายมาก ห่างจากโซลแค่ 30 นาที โดยการนั่งรถเมล์ (สาย 505) จากสถานี Guro digital complex แต่ฝากไว้อีกนิดนึงนะคะว่าที่นี่เค้าไม่อนุญาตให้นำเด็กเล็กเข้าไป เพราะของที่เค้าตั้งโชว์ไว้มีแต่ของแตกง่ายทั้งนั้น เลยมีป้ายแปะไว้ด้านนอกว่าเด็กเล็กห้ามเข้าค่ะ

Access

p.s. โพสนี้เราเขียนด้วยใจไร้สปอนเซอร์สนับสนุน แต่อย่างไรก็ตามถ้าทุกคนซื้อสินค้าหรือจองบริการผ่านลิงค์โฆษณาที่โผล่ขึ้นมา เราจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆเพื่อนำมาใช้พัฒนา Ploy’s Little Atlas บล็อกท่องเที่ยวเล็กๆของเรานี้ต่อไปค่ะ ขอบพระคุณผู้เข้าชมทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ //ไหว้ย่อ//

p.p.s รูปภาพทั้งหมดในโพสนี้เป็นของผู้เขียน (เว้นแต่จะระบุแหล่งที่มา) ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในทุกกรณี หากต้องการรีโพส กรุณาติดต่อผ่านโซเชี่ยลมีเดียได้ทุกช่องทาง