Japan Travel Winter in Japan

ส่งท้ายปีที่ญี่ปุ่น : ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)

Day 3 (2018-Dec-31) : Shirakawa – Nakoya

สวัสดีชิราคาวา ฉันมาแล้ววว!

หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิราคาวาโกะ (Historic Village of Shirakawa-go) เป็นหนึ่งในสถานที่เป้าหมายที่ตั้งใจจะมามากในครั้งนี้ค่ะ หมู่บ้านนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งในทริปนี้ นี่เป็นสถานที่มรดกโลกแห่งที่สองที่พลอยได้มาสัมผัสถัดจากอันแรกคือปราสาทฮิเมจิ

การเดินทางไปยังหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมและสะดวกที่สุดคือไปด้วย Nohi Bus ที่สามารถขึ้นได้จากเมืองใหญ่ๆหลายๆเมืองรวมถึงจากเมืองทากายามะด้วยค่ะ ราคาตั๋วไปกลับอยู่ที่ 4,420yen

รายละเอียดรถบัส Nohi: https://www.japan-guide.com/bus/shirakawago.html

Nohi bus ส่วนใหญ่ต้องจองล่วงหน้า ซึ่งในวันหยุดยาวสิ้นปีแบบนี้คนมาเที่ยวเยอะมากๆ แน่นอนว่า จองไม่ทันค่ะ! เลยข้ามมาที่แพลนบี จองรถขับไปกันเองโลด

เราเลือกจองรถจาก https://rent.toyota.co.jp/eng/ เพราะเราลองดูหลายๆเจ้าแล้วมีที่นี่ที่มีสถานีรับรถได้ใกล้ๆกับที่พัก สะดวกมากถ้าใครพักใกล้ๆ Takayama station ที่รับรถอยู่ตรงข้ามกับสถานีเลยค่ะ พนักงานบริการดีและพูดภาษาอังกฤษได้

การเช่ารถถือเป็นตัวเลือกที่ดีใช่ย่อยนะคะ เพราะมีเส้นทางด่วนเปิดใหม่ไปถึงหมู่บ้าน สะดวกและรวดเร็วใช้เวลาเดินทางไม่เกินสี่สิบนาทีหากรถไม่ติด ยิ่งมาสี่คนขึ้นไปยิ่งคุ้มเพราะค่าเช่ารถ + น้ำมัน ตกประมาณ 8,000yen ค่าทางด่วน 2,000yen ค่าจอดรถที่หมู่บ้าน 1,000yen หารสี่แล้วถูกกว่าค่ารถบัสไปกลับอีกค่ะ

เมื่อมาถึงหมู่บ้านก็ยืนสตั๊นจนเกือบถูกหิมะกลบ เพราะมันสวยมากกกกกก ถือว่าได้มาในหนึ่งวันที่หิมะหนามากพีคสุดๆ การเดินเที่ยวชมหมู่บ้านก็มีtipsและกฏเล็กๆน้อยๆที่เราควรเคารพและทำตาม จริงๆก็เป็นสิ่งที่เราควรทำกับทุกสถานที่นะคะ ไม่ว่าที่ไหนๆที่เราไปก็ควรใส่ใจกับกฏเกณฑ์ที่เค้ามี

ที่หมู่บ้านชิราคาวาโกนี้จะไม่มีถังขยะตามทางค่ะ ยกเว้นตามบูธขายอาหารเล็กๆที่เตรียมถังไว้ให้กับลูกค้าที่ซื้ออาหารจากร้านเท่านั้น นอกนั้นเราควรเก็บไว้กับตัวไม่ทิ้งมั่วซั่วตามทางนะค้า และถึงแม้ว่าบ้านหลายๆหลังจะถูกส่งมอบและกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว แต่หลายๆหลังก็ยังคงมีคนอาศัยอยู่จริงๆ ไม่ควรเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าก่อนได้รับอนุญาตค่ะ

ไฮไลท์ของหมูบ้านคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ความเป็นเอกลักษณ์ของรูปทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว (Gassho-style) ของบ้านที่ถูกอนุรักษ์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะอย่างที่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองค่ะ ว่าในฤดูหนาวนั้นหิมะตกทับปกคลุมหมู่บ้านหนาขนาดนี้ หลังคาที่ถูกออกแบบมาแบบนี้จึงทำให้หิมะไหลตกลงพื้นได้ง่าย ทำให้หลังคาบ้านไม่รองรับน้ำหนักมากเกินไป และถ้าสังเกตดีดีจะเห็นว่าบ้านทุกหลังหันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อรับลมเย็นในฤดูร้อนและ ไม่โต้ลมในฤดูหนาว สะท้อนถึงสติปัญญาอันชาญฉลาดที่สืบทอดกันมาแต่อดีตได้ดีมากๆค่ะ

มุมโน้นมุมนี้ของหมู่บ้านสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินค่ะ แต่หากจะชมความสวยงามโดยรวมของหมู่บ้านนั้นต้องไปที่จุดชมวิวชิโรยามะ (Shiroyama Observatory) ค่ะ ถ้าไม่รีบก็เดินชิวๆซักยี่สิบนาทีขึ้นไปก็ถึงค่ะ แต่อากาศหนาวๆแบบนี้ ทางเดินก็จะลื่นๆชันๆ ออกจะอันตรายไปซักหน่อย เค้าก็มีบริการ shuttle bus ค่ะ ขึ้นได้จากถนนหลักหน้าหมู่บ้าน (ใกล้ๆกับสี่แยกปั๊มน้ำมัน) รอบละ 100yen มีรถวิ่งทุกๆสิบถึงยี่สิบนาที

การมาเที่ยวชิราคาวานั้น ควรจะอุทิศเวลาให้ไปเลยหนึ่งวันเต็มๆค่ะ ตอนแรกคิดว่าครึ่งวันเช้าก็พอละ ครึ่งบ่ายจะได้ไปที่อื่นต่อ แต่ความงดงามของหมู่บ้านท่ามกลางธรรมชาติในหุบเขาก็ทำเอาเราติดตรึงอยู่ที่นี่เกือบทั้งวัน นี่ขนาดว่าร้านค้าซุ้มอาหารปิดเกือบหมดนะคะ ยังอยู่นานขนาดนี้ ถ้าเปิดปกติคงอยู่ได้ทั่งวันจริงๆค่ะ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ขอปักหมุดว่าจะกลับมาอีกในฤดูอื่นเพราะความสวยงามคงยังไม่หายไปแต่จะแปลกตาน่าดูขนาดไหนคงต้องกลับมาใหม่ให้เห็นเองอีกซักทีค่าา

ติดตามต่อได้ใน ส่งท้ายปีที่ญี่ปุ่น : นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato)

p.s. โพสนี้เราเขียนด้วยใจไร้สปอนเซอร์สนับสนุน แต่อย่างไรก็ตามถ้าทุกคนซื้อสินค้าหรือจองบริการผ่านลิงค์โฆษณาที่โผล่ขึ้นมา เราจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆเพื่อนำมาใช้พัฒนา Ploy’s Little Atlas บล็อกท่องเที่ยวเล็กๆของเรานี้ต่อไปค่ะ ขอบพระคุณผู้เข้าชมทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ //ไหว้ย่อ//

p.p.s รูปภาพทั้งหมดในโพสนี้เป็นของผู้เขียน (เว้นแต่จะระบุแหล่งที่มา) ไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในทุกกรณี หากต้องการรีโพส กรุณาติดต่อผ่านโซเชี่ยลมีเดียได้ทุกช่องทาง

4 Replies to “ส่งท้ายปีที่ญี่ปุ่น : ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)”

Comments are closed.